มาลองย้อนรอยหนังเรื่อง Night at the Museum
ซึ่งถ้าจักพูดถึงหนึ่งในหนังยอดได้รับความนิยมประจำปี 2006 ซึ่งอันที่สุทธิแล้วต้นกำเนิดของหนังเรื่องนี้มาจากหนังสือนิทานสำหรับเด็กในปี 1993 ซึ่งเขียนโดย มิลาน เทรนซ์ ได้เอิ้นเล่าเรื่องราวของคุณพ่อที่สมัครงานเข้ามาทำหน้าที่เป็นยามดูแลพิพิธภัณฑ์กะดึกพร้อมด้วยค้นพบว่านิทรรศการจัดแสดงเหล่านี้ดันมีชีวิตได้ยามวิกาล ตัวหนังกำกับโดยชอนน์ เลวี่ พร้อมด้วย เป็นได้ทำเงินไปได้ทั้งสิ้นถึง 574 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยที่เหตุการณ์ในหนังภาคแรกเล่าเรื่องราวของ ลาร์รี่ ใช่ไหม เบน สติลเลอร์ คุณพ่อที่เพิ่งหย่าจากภรรยามาหมาดๆ ได้ทำการสมัครทำตำแหน่งยามกะดึก กับ ได้พบว่าชาวเผ่ามายัน ที่เป็นนักรบโรมันรวมไปถึงคาวบอยก็ออกมาสู้รบกัน แถมบรรดามนุษย์ยุคหิน นักรบชาวฮั่น ก็ได้เผามู่ลี่หลังของที่จัดแสดงจนเหี้ยน พร้อมด้วยเจ้าโครงกระดูกทีเรกซ์ก็ดันเข้าใจว่าตัวเองเป็นสุนัขเชื่องๆ ตัวหนึ่ง ท่ามกลางความอลม่านสุดๆ ซึ่งมีแต่ประธานาธิบดี ธีโอดอร์ รูสเวลท์ หรือไม่ก็ โรบิน วิลเลี่ยมส์ ที่ดูพอจะช่วยเหฟุ้งเฟื่องเขาด้วยกันให้คำปรึกษาได้บ้าง อีกทั้งลาร์รี่ยังต้องยับยั้งแผนการชั่วร้ายของการฮุบพิพิธภัณฑ์นี้อีกด้วย
เพราะตัวหนังนั้นได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบพิพิธภัณฑ์มาจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติประจำประเทศอเมริกาเหนือ แต่ถูกสร้างขึ้นในโรงถ่ายจำลองอีกที ถึงแม้ว่าหนังภาคแรกอาจจักไม่ได้ถูกปากนักวิจารณ์เท่าไหร่นักส่วนมากคะแนนของหนังจะเฉลี่ยอยู่ที่เกือบๆ C+ แต่ทว่ากระแสตอบรับจากผู้ชมที่ส่วนมากเป็นครอบครัวซะส่วนใหญ่ก็ทำให้หนังประสบความสำเร็จจนเกิดภาคต่อขึ้นมาในปี 2009
เพราะที่หนังเข้าใหม่เรื่อง Night at the Museum: Battle of the Smithsonian นั้นคือภาคต่อภาคดังกล่าว เหตุการณ์ให้หลังจากภาคแรก 3 ปี ครั้นลาร์รี่ตกลงใจลาออกจากการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์เงินเดือนน้อย ไปเป็น พนักงานผู้ประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์ แต่ว่าความคิดถึงอาชีพเดิมทำให้เขาต้องกลับมาทำอาชีพเก่า พร้อมทั้ง ได้พบว่าบรรดาผองเพื่อนจัดแสดงจากภาคแรก กำลังกลายเป็นวัตถุที่ไม่ควรนำมาจัดแสดงอีกถัดจาก รอคอยการส่งไปอยู่รวมกับบรรดาวัตถุโบราณขึ้นหิ้งทั้งหลายที่สถาบันสมิธโซเนี่ยน พร้อมกับทำให้เขาได้พบกับเพื่อนกลุ่มใหม่อาทิ เช่น
- อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
- อับบราฮัม ลินคอร์น
- อมีเลีย เอียฮาร์ท หรือ เอมี่ อดัมส์
ส่วนในภาคที่ 2 ตัวหนังยังได้รับนักแสดงกลุ่มเดิมกลับมาอย่างครบฝ่าย เสียก็แต่ว่าคำวิจารณ์พร้อมทั้งรายได้น้อยกว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังทำกำไรให้กับสตูดิโออย่างฟอกซ์จนหลายปีข้ามไป ปี 2014 ก็มีภาคต่อที่ชื่อว่า Night at the Museum Secret of the Tomb ตามออกมาโกยเงินคนดูอีกครั้ง
พระเอกแชนนิ่ง เททั่ม มาร์ค รัฟฟาโล่ ขอฟิตหุ่น ฝึกมวยปล้ำนาน 4 เดือน เพื่อหนังเรื่อง FOXCATCHER ปล้ำแค่ตาย
เรียกได้ว่าเพราะเป็น จอเงินที่สร้างจากเหตุการณ์จริงของ 2 นักแสดงนำของเรื่องเลยก็ว่าได้ ที่ได้จัดเต็มทุ่มเท เพื่อบทบาทที่ได้รับกันแบบสุดตัว โดยที่ แชนนิ่ง เททั่ม ด้วยกัน มาร์ค รัฟฟาโล่ นั้นต้องเพิ่มน้ำหนักพร้อมกับฟิตร่างกาย กว่า 10 ปอนด์ ด้วยกัน ยังต้องเข้าฝึกมวยปล้ำนานกว่า 4 เดือน
เพื่อที่จะได้รับบท มาร์ค พร้อมกับ เดฟ ชูทส์ 2 พี่น้องแชมป์มวยปล้ำเหรียญทองโอลิมปิค ทั้ง เททั่ม พร้อมกับ รัฟฟาโล่ นั้นต่างก็ไม่มีทักษะด้านมวยปล้ำมาก่อน
พร้อมทั้งนั่นทำให้พวกเขาต้องเรียนรู้ท่าทาง การเคลื่อนไหว โดยพวกงานได้นำ โค้ชผู้ฝึกสอนนักกีฬาของหมู่ฟ็อกซ์แคชเชอร์ ตัวจริงมาเป็นผู้ฝึกให้ รวมทั้งศึกษาจากวิดิโออีกด้วย แม้ว่า รัฟฟาโล่ จะเคยเล่นมวยปล้ำมาบ้างในกาลเวลามัธยมปลาย แต่เดฟ ชูทส์เป็นคนถนัดซ้าย ซึ่งทำให้นักแสดงหนุ่มต้องลืมทุกอย่างที่เขาเคยรู้ไปให้หมด ผมขอท้าให้ใครก็ตามที่เคยคิดว่ากีฬาที่พวกเขาเล่นนั้นโหดหินที่สุดแล้วให้มาลองเล่นมวยปล้ำดู
เพราะว่า แชนนิ่ง เททั่ม นั้นเช็ครอบหนังเป็นแทบคนเดียวในบรรดานักแสดงหลังทั้ง 3 คนที่จะต้องรับบทตัวละครที่ยังคงมีชีวิตอยู่นักอย่าง มาร์ค ชูทส์ ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นโค้ชมวยปล้ำในโอเรกอน โดยเขามักจักมาเยี่ยมเยียนกองถ่ายอยู่บ่อยๆ การมีเขาอยู่ด้วยเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากครับ พร้อมกับ มาร์คตัวยิ่งปรากฏตัวในฐานะนักแสดงรับเชิญในจอเงินเรื่องนี้ด้วย
เพราะทาง FOXCATCHER หรือไม่ก็ ฟ็อกซ์แคชเชอร์ ไม่ก็ปล้ำแค่ตาย คือผลงานการกำกับของ
- เบ็นเน็ต มิลเลอร์ จากเรื่อง 1.Capote, 2.Moneyball
ที่ได้รวมนักแสดงแถวหน้าอย่าง 1.แชนนิง เททั่ม สตีฟ และ 2.คาเรล มาร์ค รัฟฟาโล่ หนังที่สร้างจากเรื่องแน่นอนของคดีฆาตกรรมที่สั่นสะเทือนไปทั่ววงการกีฬา กับเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งยิ่งใหญ่ของวงการมวยปล้ำสหรัฐ เรื่องราวของสองพี่น้องนักมวยปล้ำผู้ยิ่งใหญ่ เดฟ มาร์ค รัฟฟาโล่ และ มาร์ค แชนนิ่ง เททัม ชูทส์ เจ้าของดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกด้วยกันแชมป์มวลปล้ำโลก 2 กาลสมัย
ที่ต้องพ้นการดิ้นรนต่อสู้จนกลายมาเป็นสุดยอดนักมวยปล้ำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติบุคคลศาสตร์ แต่ก่อนที่จักได้เป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิคระยะเวลาต่อไป เดฟ ชูทส์ กลับถูกฆาตกรรมลงอย่างเระบือดเย็น
ซึ่งนักวิจารณ์ทั่วโลกต่างก็ยกย่องให้ FOXCATCHER เป็นหนังยอดเยี่ยมแห่งปีซึ่งจะเปิดปูดเบื้องหลังเหตุการณ์จริงๆที่สะเทือนใจคนทั้งประเทศ FOXCATCHER ปล้ำแค่ตาย เข้าชิง 3 รางวัลลูกโลกทองคำ จอเงินยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงสบทบชายยอดเยี่ยม 8 มกราคม 2015
ตัวอย่างหนังใหม่ Foxcatcher ปล้ำแค่ตาย Official Trailer HD [ซับไทย]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น